ทำความรู้จัก Meal Replacement ผลิตภัณฑ์ทดแทนมื้ออาหาร อาหารควบคุมหรือลดน้ำหนัก ที่ไม่ใช่แค่อาหารเสริม 

Meal Replacement (ผลิตภัณฑ์ทดแทนมื้ออาหาร) เป็นผลิตภัณฑ์ที่กำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เนื่องจากปัจจุบันบุคคลทั่วไปเริ่มหันมาใส่ใจดูแลตัวเองเพิ่มมากขึ้น เพื่อควบคุมน้ำหนักหรือสุขภาพให้ดีขึ้น การเลือกใช้ Meal Replacement จึงเป็นอีกตัวเลือกที่น่าสนใจ ที่ให้สารอาหารครบถ้วนทั้ง 5 หมู่ และยังสามารถดูแลรูปร่างตัวเองได้แม้ไม่มีเวลาเลือกทานอาหาร ดังนั้น บทความนี้จะพาไปรู้จักกับ Meal Replacement มีความแตกต่างจากผลิตภัณฑ์อาหารเสริมอย่างไร พร้อมเคล็ดลับวิธีเลือก Meal Replacement ที่ดี และข้อดี-ข้อเสียมีอย่างไรบ้าง 

Meal Replacement คืออะไร 

“Meal replacement” หรือ “ผลิตภัณฑ์ทดแทนมื้ออาหาร” หมายถึง อาหารที่ถูกออกแบบมาเพื่อทดแทนมื้ออาหารปกติ เช่น อาหารเช้า อาหารกลางวัน หรืออาหารเย็น โดยทั่วไปแล้วมักจะมีรูปแบบของเมนูหรือผลิตภัณฑ์ที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง และประกอบไปด้วยคาร์โบไฮเดรต โปรตีน ไขมัน วิตามิน แร่ธาตุ และใยอาหาร ใช้เพื่อรับประทานแทนมื้ออาหารหลัก เมื่อไม่สามารถรับประทานอาหารปกติได้หรือต้องการควบคุมปริมาณพลังงานที่ได้รับในช่วงที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก

Meal Replacement กับ Supplement ต่างกันยังไง

1. Meal Replacement (ผลิตภัณฑ์ทดแทนมื้ออาหาร)

• Meal replacement หมายถึงอาหารที่ถูกออกแบบมาเพื่อทดแทนมื้ออาหารปกติ เช่น อาหารเช้า อาหารกลางวัน หรืออาหารเย็น
• มักประกอบไปด้วยคาร์โบไฮเดรต โปรตีน ไขมัน วิตามิน แร่ธาตุ และใยอาหาร เพื่อให้คุณค่าทางโภชนาการสมดุล
• ใช้เพื่อรับประทานแทนมื้ออาหารหลัก เมื่อไม่สามารถรับประทานอาหารปกติได้หรือต้องการความสะดวกสบาย

2. Supplement (อาหารเสริม)

• Supplement หมายถึง ผลิตภัณฑ์ที่มีสารอาหารบางประเภทที่มักจะไม่ได้รับมากพอจากอาหารปกติ และใช้เพื่อดูแลสุขภาพ และบำรุงร่างกาย
• อาหารเสริมอาจมีทั้งรูปแบบของแคปซูล ผง น้ำ หรือรูปแบบอื่นๆ
• สารอาหารเสริมที่ได้รับ ได้แก่ วิตามิน แร่ธาตุ โปรตีน กรดไขมัน สารต้านอนุมูลอิสระ และสารอื่นๆ ที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ

ดังนั้น ความแตกต่างหลัก คือ Meal replacement มีลักษณะเป็นอาหารที่ถูกออกแบบมาเพื่อทดแทนมื้ออาหารปกติ ในขณะที่ Supplement เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีเป้าหมายในการเติมเต็มสารอาหารที่ขาดแคลนหรือบำรุงสุขภาพร่างกาย เพื่อให้ได้ความสมดุลในโภชนาการและสุขภาพอย่างมีประสิทธิภาพ

Meal Replacement ที่ดี มีคุณภาพและได้มาตรฐาน ต้องมีคุณสมบัติต่อไปนี้

1. ให้พลังงาน 200-400 กิโลแคลอรี่ต่อการรับประทาน 1 มื้อ
2. พลังงานที่ได้ต้องมาจากสารอาหารที่เป็นแหล่งของโปรตีน คาร์โบไฮเดรต และไขมัน เพื่อให้ได้สารอาหารหลักครบถ้วนตามที่ร่างการต้องการ
3. มีวิตามินชนิดต่างๆ ดังต่อไปนี้ A, E, B1, B2, B6, B12, ไนอะซิน, กรดโฟลิก, ไบโอติน และกรดแพนโทธินิค ในปริมาณที่เหมาะสม 
4. มีเกลือแร่ต่างๆ ดังต่อไปนี้ แคลเซียม, ฟอสฟอรัส, เหล็ก, ไอโอดีน, แมกนีเซียม, ทองแดง, สังกะสี, แมงกานีส และโซเดียม ในประมาณที่เหมาะสมต่อ 1 มื้ออาหาร

ข้อดี-ข้อเสียของ Meal Replacement

ข้อดีของ Meal Replacement

1. สะดวกและรวดเร็ว ช่วยประหยัดเวลาในการเตรียมอาหารและการวางแผนอาหาร ไม่ต้องใช้เวลาหาซื้อส่วนผสมหรือเตรียมอาหาร
2. คุณค่าทางโภชนาการ Meal Replacement มักมีส่วนประกอบที่ครบถ้วนและมีปริมาณโปรตีน คาร์โบไฮเดรต ไขมัน วิตามินและเกลือแร่ที่เหมาะสมต่อร่างกายเรา ทำให้ได้รับสารอาหารที่ครบถ้วนเทียบเท่ามื้ออาหารปกติ
3. ควบคุมน้ำหนัก สามารถใช้เป็นส่วนหนึ่งของโปรแกรมลดน้ำหนักหรือการควบคุมน้ำหนัก โดยสามารถควบคุมปริมาณพลังงานที่รับประทานได้อย่างง่ายดาย และผลิตภัณฑ์ที่ขึ้นทะเบียนเป็น Meal Replacement จะสามารถเรียกว่าเป็นอาหารควบคุมหรือลดน้ำหนัก ได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย
4. ควบคุมการบริโภค ช่วยในการควบคุมอาหารและปริมาณพลังงานที่รับประทาน มีข้อมูลเกี่ยวกับปริมาณแคลอรี่ โปรตีน คาร์โบไฮเดรต ไขมัน และสารอาหารอื่นๆให้สามารถควบคุมการบริโภคได้ง่ายขึ้น

ข้อเสียของ Meal Replacement

1. รสชาติ บางคนอาจไม่พอใจในรสชาติหรือลักษณะของ Meal Replacement เพราะมักมีส่วนผสมจากธัญพืช นม ถั่ว ข้าว ไข่ ซึ่งเป็นส่วนผสมที่มีกลิ่นและเนื้อสัมผัสที่มักไม่ถูกใจคนบางกลุ่ม
2. ไม่มีแหล่งอาหารอื่น หากชอบการเตรียมอาหารเองและการรับประทานอาหารจากแหล่งอื่นๆ เป็นส่วนหนึ่งของสุขภาพและสังคม การใช้ Meal Replacement อาจไม่ตอบสนองต่อความต้องการดังกล่าวได้
3. อดทานอาหารจานโปรด ไม่ได้ทานอาหารที่ชอบขาดอรรถรสในมื้ออาหาร รวมถึงสังคมกับผู้ร่วมโต๊ะรับประทานอาหาร หากเป็นคนที่ชอบเข้าสังคม และเพลิดเพลินกับความอร่อย Meal Replacement อาจไม่เหมาะ
4. ความจำเจ ขาดความหลากหลาย เบื่อ ไม่อยากทานอาหาร ผู้ที่จำเป็นต้องใช้ Meal Replacement เป็นประจำ บางกลุ่มมักหาความสุขเล็กๆ น้อยๆ ด้วยการทดลองทาน Meal Replacement จากแบรนด์ต่างๆ หรืออาจลองปรุง Meal Replacement ด้วยตัวเอง เป็นรสชาติที่ตัวเองชื่นชอบ
5. ราคาสูง โดยเฉลี่ยราคามักจะแพงกว่ามื้ออาหารทั่วไปประมาณ 1.5-2 เท่า

สรุป 

ถึงแม้ปัจจุบัน Meal replacement หรือ ผลิตภัณฑ์ทดแทนอาหาร จะมีให้เลือกหลากหลายรูปแบบ ทั้งแบบที่ให้โปรตีนและพลังงานสูงหรือให้วิตามินสูง มีการปรุงแต่งรสชาติให้รับประทานง่าย สะดวดและรวดเร็วมากขึ้น แต่สิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้ามคือ การเลือก Meal replacement ที่ให้สารอาหาร และพลังงานต่อร่างกายอย่างครบถ้วน และยังช่วยให้การควบคุมน้ำหนักเป็นไปอย่างสมดุล ไม่กระทบการทำงานของร่างกาย และที่สำคัญอย่าลืมออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอควบคู่ไปด้วย

SSP Biotech ในเครือ Seven Stars Pharmaceutical ยังคงมุ่งมั่นในการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นผู้นำทางด้านการผลิตอาหารเสริมและผลิตภัณฑ์ทดแทนมื้ออาหารเพื่อสุขภาพ ซึ่งหากคุณมีความสนใจในเรื่องของการวิจัยและพัฒนาสูตร ทางเรามีความยินดีที่จะให้คำแนะนำเกี่ยวกับวัตถุดิบและขั้นตอนการผลิตในทุกๆขั้นตอนของการจัดทำผลิตภัณฑ์อาหารเสริมและผลิตภัณฑ์ทดแทนมื้ออาหารเพื่อสุขภาพ