Table of Contents
วิตามินแต่ละชนิดควรกินเวลาไหนเพื่อให้ร่างกายดูดซึมได้ดีที่สุด!
ในยุคสมัยปัจจุบันที่ผู้คนต่างหันมาสนใจสุขภาพ ความงามด้วยการรับประทานอาหารเสริมวิตามิน คอลลาเจน หรือแร่ธาตุ แต่ทราบหรือไม่ว่า ช่วงเวลาที่รับประทานวิตามินนั้นมีผลต่อประสิทธิภาพของวิตามิน ซึ่งวิตามินแต่ล่ะชนิดมีช่วงเวลาการกินที่เหมาะสมแตกต่างกันไป หากอยากให้วิตามินที่รับประทานเข้าไปนั้นมีประสิทธิภาพสูงสุด จำเป็นจะต้องรู้ว่าช่วงเวลาไหนกินวิตามินตอนไหนดีที่สุด เพื่อให้วิตามินที่ทานไปไม่สูญเปล่า และร่างกายก็สามารถนำวิตามินเหล่านั้นไปบำรุงร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด ดังนั้น บทความนี้จึงนำความรู้ดี ๆ มาแนะนำ!
1. วิตามินเอ Vitamin A
ประโยชน์ของวิตามินเอที่ทุกคนรู้จักดีคือ มีส่วนช่วยในการมองเห็น บำรุงสายตา แต่รู้หรือไม่ว่าวิตามินเอยังมีส่วนช่วยในเรื่องของผิวพรรณ และยังจำเป็นต่อการเจริญเติบโตของกระดูกด้วย หากถามว่ากินวิตามินตอนไหนดีที่สุด เราจึงขอแนะนำว่าควรทานพร้อมกับมื้ออาหารเพื่อให้ดูดซึมได้ดี สามารถทานได้พร้อมกับอาหารทุกมื้อไม่ว่าจะเป็นมื้อเช้า มื้อกลางวัน หรือมื้อเย็น ควรทานพร้อมกับอาหารที่มีไขมันดี เช่น ปลาทูน่า อะโวคาโด หรือน้ำมันมะกอก และสามารถทานหลังอาหารไม่เกิน 30 นาที
2. วิตามินบี Vitamin B
วิตามินบี ช่วยในการบำรุงระบบประสาทและกระตุ้นการทำงานของสมอง อีกทั้งยังช่วยลดความเครียด วิตกกังวลได้ด้วย โดยวิตามินบีนั้นพบได้ในอาหารจากธรรมชาติทั่วไป แต่ปัจจุบันหลายคนนั้นมีชีวิตประจำวันที่เร่งรีบทำให้ไม่สามารถได้รับสารอาหารที่หลากหลายมากนัก การกินวิตามินบีในรูปแบบอาหารเสริมนั้นจึงถือเป็นตัวเลือกที่ดี ทำให้ช่วยเสริมวิตามินบีให้กับร่างกายของเราได้ โดยควรทานวิตามินบีในตอนเช้าขณะที่ท้องว่างจะดีที่สุด เพื่อให้ร่างกายดูดซึมได้ดี หรือถ้าทานตอนท้องว่างแล้วรู้สึกระคายเคืองกระเพาะอาหาร แนะนำให้ทานระหว่างมื้ออาหารเช้า หรือหลังอาหารเช้าแทน นอกจากนี้ไม่ควรทานวิตามินบีตอนเย็น หรือก่อนนอน เพราะอาจทำให้นอนไม่หลับได้
3. วิตามินซี Vitamin C
หนึ่งในวิตามินยอดฮิตที่เป็นที่นิยมอย่างวิตามินซี ซึ่งมีคุณสมบัติในการช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันของร่างกาย และมีส่วนช่วยในเรื่องของผิวพรรณ แต่รู้หรือไม่ว่า การทานวิตามินซี ครั้งละ 1,000 – 1,500 กรัม ร่างกายของเราจะสามารถดูดซึมวิตามินซีได้เพียง 50% เท่านั้น แล้วกินวิตามินตอนไหนดีที่สุด ? การทานวิตามินซีควรแบ่งทาน เช่น ทานวิตามินซี ขนาด 500 มิลลิกรัม วันละ 2-3 ครั้ง หรือจนครบขนาดที่แนะนำ แทนการทานวิตามินซี 1,000 มิลลิกรัม เพียงครั้งเดียว โดยช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการทานวิตามินซี คือการทานพร้อมอาหารมื้อเช้า และอาหารมื้อเย็น ที่สำคัญอย่าลืมทานพร้อมกับสารอาหารอื่น ๆ ที่ร่างกายต้องการด้วย
4. วิตามินดี Vitamin D
วิตามินดี มีคุณสมบัติในการช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของกระดูกและฟัน ช่วยให้ร่างกายสามารถดูดซึมแร่ธาตุที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย เช่น แคลเซียม, ฟอสฟอรัส ได้ดียิ่งขึ้น วิตามินดีนั้นสามารถรับได้จากแสงแดดแต่ด้วยการใช้ชีวิตของคนส่วนใหญ่นั้นมักใช้ชีวิตส่วนมากอยู่ในร่ม เมื่อออกแดดมักจะใส่เสื้อผ้าปกปิดร่างกาย ใช้ครีมกันแดด ซึ่งส่งผลให้ร่างกายของเรานั้นขาดวิตามินดีโดยไม่รู้ตัว การทานอาหารเสริมนั้นถือเป็นตัวช่วยที่ดีไม่ให้ร่างกายของเราขาดวิตามินดี และเพื่อให้ร่างกายสามารถดูดซึมวิตามินดีได้มากที่สุด ควรทานวิตามินดีระหว่างมื้ออาหาร หรือหลังอาหารเช้า/กลางวัน ภายในเวลาไม่เกิน 30 นาที และไม่ควรทานวิตามินดี ในช่วงอาหารเย็น หรือก่อนนอน เพราะอาจทำให้รู้สึกไม่สบายตัวหรือ นอนไม่หลับได้
5. วิตามินอี Vitamin E
วิตามินอีเป็นวิตามินที่ช่วยในเรื่องของผิวพรรณ บำรุงเส้นผมที่แห้งเสีย รวมทั้งซ่อมแซมผิวและเล็บได้ อีกทั้งยังช่วยยับยั้งการเสื่อมสภาพของผิว ช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยเหี่ยวย่น ซึ่งวิตามินอีเป็นวิตามินที่ร่างกายของเราไม่สามารถผลิตเองได้ ดังนั้นเราจึงต้องทานอาหารจำพวก ถั่ว เมล็ดพืช น้ำมันพืช หรือผักบางชนิด เป็นต้น แต่ถ้าหากใครกังวลว่าจะได้รับวิตามินอีไม่เพียงพอก็สามารถเลือกทานอาหารเสริมที่มีวิตามินอีได้
แล้วกินวิตามินตอนไหนดีที่สุด หากอยากให้วิตามินอีสามารถดูดซึมได้ดีที่สุด ควรทานวิตามินอีหลังมื้ออาหารทันที เพราะว่าวิตามินอีสามารถละลายในไขมันได้ดีจึงควรทานหลังอาหารนั่นเอง และหากทานคู่กับอาหารที่มีส่วนประกอบของไขมัน ก็จะมีส่วนช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการดูดซึมวิตามินอีเข้าร่างกายได้อย่างดีมากขึ้น
6. วิตามินเค Vitamin K
วิตามินเคเป็นวิตามินที่มีส่วนช่วยในการแข็งตัวของเลือด บำรุงรักษาเนื้อเยื่อกระดูก ช่วยบรรเทาอาการประจำเดือนมามากกว่าปกติ โดยวิตามินเคนั้นสามารถพบได้ในผักสีเขียวเข้ม ไข่แดง นม เนย น้ำมันมะกอก มะเขือเทศ เป็นต้น แต่ถ้าไม่สามารถรับวิตามินเคได้จากอาหารจากธรรมชาตินั้น การกินวิตามินในรูปแบบอาหารเสริมจึงเป็นสิ่งที่สำคัญ วิตามินเคควรกินระหว่างมื้ออาหารหรือหลังอาหารไม่เกิน 30 นาที โดยไม่ควรรับประทานเกิน 80 ไมโครกรัมต่อวัน
7. มัลติวิตามิน Multi Vitamin
Multi Vitemin หรือ วิตามินรวม คือ อาหารเสริมรูปแบบวิตามินที่รวบรวมเอาสารอาหารหลายชนิดไว้ในเม็ดเดียวกัน วิตามินรวมเป็นวิตามินที่ช่วยเสริมสร้างการทำงานของร่างกายและสมอง ทำให้ร่างกายมีประสิทธิภาพในการทำงานที่ดีมากขึ้น เหมาะสำหรับคนที่มีเวลาน้อย แต่ต้องการสารอาหารที่มีประโยชน์อย่างหลากหลายในครั้งเดียว แล้วกินวิตามินตอนไหนดีที่สุดสำหรับวิตามินรวม คือการทานคู่พร้อมกับมื้ออาหารเช้า กลางวัน หรือไม่ก็อาหารเย็น ภายใน 30 นาที จะทำให้ร่างกายดูดซึมวิตามินรวมได้ดี
8. โคเอนไซม์คิวเท็น Coenzyme Q10
โคเอนไซม์ Q10 จะมีส่วนช่วยในการบำรุงหัวใจ สมอง กล้ามเนื้อ และช่วยเพิ่มบำรุงเซลล์ต่าง ๆ ในร่างกาย โดยโคเอนไซม์ Q10 ควรทานพร้อมกับมื้ออาหารเพื่อประสิทธิภาพในการทำงานของวิตามิน และปริมาณไม่เกิน 100 – 300 mg ต่อวัน ควรแบ่งทานเป็น 2 มื้ออาหารและทานคู่กับอาหารจำพวกที่มีไขมันดี
9. น้ำมันปลา Fish Oil
อาหารเสริมน้ำมันปลาอุดมไปด้วยสารอาหารและกรดไขมันดีที่สกัดจากปลาทะเลน้ำลึกและปลาทะเลเขตหนาว ช่วยบำรุงระบบประสาทและสมอง ลดความเสี่ยงเป็นโรคหัวใจ บรรเทาอาการปวดไมเกรนและปวดประจำเดือน ซึ่งแนะนำว่าควรรับประทานน้ำมันปลาหลังมื้ออาหารมื้อใดก็ได้ภายในเวลา 30 นาที เพราะไขมันในอาหารจะช่วยเพิ่มการดูดซึมน้ำมันปลา และลดอาการคลื่นไส้ อาเจียนที่เป็นผลข้างเคียงของน้ำมันปลาได้ และควรทานน้ำมันปลาในปริมาณที่เหมาะสม คือ ไม่ควรทานน้ำมันปลาเกิน 3,000 มิลลิกรัมต่อวัน น้ำมันปลาไม่ควรทานคู่กับยาต้านการแข็งตัวของเลือด อย่างเช่น แอสไพริน วาร์ฟาริน หรือโคลพิโดเกรล และไม่ควรทานกับอาหารที่มีคอเลสเตอรอลสูงด้วย
10. สังกะสี Zinc
สังกะสี หรือ ซิงค์ มีส่วนสำคัญในการช่วยลดสิว โดยจะช่วยลดการอักเสบ ยับยั้งเชื้อสิว ช่วยลดการทำงานของต่อมไขมัน ทำให้ผิวหน้าไม่มัน โดยปกติควรทานตอนท้องว่าง แต่ถ้าหากทานช่วงที่ท้องว่างแล้วรู้สึกระคายเคืองท้องก็สามารถเปลี่ยนมาทานพร้อมมื้ออาหารได้ ควรหลีกเลี่ยงการทานซิงค์กับอาหารที่มีไฟเตทสูง อย่างเช่น พืชตระกูลถั่ว งา และแอลกอฮอล์ เป็นต้น และหลีกเลี่ยงการทานอาหารที่มีธาตุเหล็กพร้อมกันกับซิงค์ เพราะจะขัดขวางการทำงานของซิงค์
11. สารสกัดจากเมล็ดองุ่น Grape Seed
Grape Seed เป็นสารสกัดที่ได้มาจากเมล็ดองุ่น ซึ่งจะมีคุณสมบัติในการออกฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ช่วยให้ผิวดูกระชับ เต่งตึง โดยการยับยั้งการทำงานของเอนไซม์คอลลาจิเนส ที่ทำให้เกิดริ้วรอยก่อนวัยอันควร และยังมีส่วนช่วยในการลดจุดด่างดำ ป้องกันผิวจากแสงแดดอีกด้วย เนื่องจาก Grape Seed มีสารสกัด OPCs ที่สามารถจับกับโปรตีนได้ ดังนั้นการทาน Grape Seed ที่แนะนำคือ ทานในขณะที่ท้องว่างหรือหลังอาหารประมาณ 2 ชั่วโมง เพื่อไม่ให้สาร OPCs จับตัวกับโปรตีนที่จะส่งผลให้ร่างกายดูดซึมได้น้อยลง หากทานคู่กับคอลลาเจนก็จะมีประสิทธิภาพมากขึ้นในด้านการดูแลผิวพรรณ
12. คอลลาเจน Collagen
คอลลาเจนเป็นอาหารเสริมที่ได้รับความนิยมอย่างมาก มีส่วนช่วยในการบำรุงผิวพรรณให้กระจ่างใส เรียบเนียน ดูอ่อนเยาว์ บำรุงผมและเล็บให้แข็งแรง ไม่เปราะหักง่าย และยังมีส่วนช่วยในการบำรุงเนื้อเยื่อ ไขข้อกระดูก ให้แข็งแรง ห่างไกลจากภาวะกระดูกพรุน ช่วงเวลาที่ดีที่สุดของการทานคอลลาเจน ก็คือ การทานคอลลาเจนในช่วงที่ท้องว่าง เนื่องจากเป็นช่วงเวลาที่ร่างกายสามารถดูดซึมคอลลาเจนได้ดีที่สุด และแนะนำให้ทานคอลลาเจนควบคู่กับวิตามินซี ร่างกายก็จะยิ่งดูดซึมได้ดียิ่งขึ้น แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ไม่ควรทานคอลลาเจนเกิน 10,000 มิลลิกรัมต่อวัน เพราะอาจเกิดผลเสียต่อร่างกายมากกว่าเกิดผลดีได้
สรุป
การกินวิตามินตอนไหนดีที่สุด ? คำตอบก็คือไม่ตายตัว เนื่องจากวิตามิน อาหารเสริม หรือแร่ธาตุแต่ละตัวมีกระบวนการดูดซึมและการนำไปใช้ที่แตกต่างกันออกไป ดังนั้นผู้ที่สนใจดูแลสุขภาพด้วยการทานวิตามิน แร่ธาตุ หรืออาหารเสริม ควรศึกษาข้อมูล สรรพคุณ รวมถึงวิธีการและช่วงเวลาที่ควรรับประทานด้วย เพื่อให้การทานวิตามินของคุณได้ประโยชน์สูงสุดเท่าที่จะเป็นได้
โดยทาง SSP Biotech ในเครือ Seven Stars Pharmaceutical ยังคงมุ่งมั่นในการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นผู้นำทางด้านการผลิตอาหารเสริม ซึ่งหากคุณมีความสนใจในเรื่องของการวิจัยและพัฒนาสูตร ทางเรามีความยินดีที่จะให้คำแนะนำเกี่ยวกับวัตถุดิบและขั้นตอนการผลิตในทุกๆขั้นตอนของการจัดทำผลิตภัณฑ์อาหารเสริม
ประชุมฝ่ายขายแบ่งปันความรู้ระหว่างแผนกผู้แทนขาย การตลาด ODMและR&D
วันที่ 28 สิงหาคม 2567 คณะผู้บริหารจัดประชุมยอดขายแผนกผู้แทนและแลกเปลี่ยนความระหว่างตัวแทนแต่ละแผนกเพื่อการทำงานในอนาคต
Seven Stars Pharmaceutical ฉลองครบรอบ 17 ปี
วันที่ 28 สิงหาคม 2567 – เครือบริษัท Seven Stars Pharmaceutical จัดพิธีเจริญพระพุทธมนต์พร้อมเปิดงานกิจกรรมครบรอบ 17 ปี
กิจกรรม คอร์สปฏิบัติธรรม สวิปัสสนากรรมฐาน
วันที่ 21 สิงหาคม 2567 จัดกิจกรรม คอร์สปฏิบัติธรรมสวิปัสสนากรรมฐาน SEVEN STARS PHARMACEUTICAL ผู้เข้าร่วมปฏิบัติกิจกรรมพร้อมกับพระอาจารย์
Seven Stars Pharmaceutical ร่วมงาน CPHI South East Asia 2024
งานแสดงสินค้าเทคโนโลยีและนวัตกรรมด้านเภสัชภัณฑ์ และผลิตภัณฑ์ด้านบรรจุภัณฑ์ พร้อมทั้งธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการผลิตเภสัชภัณฑ์และบรรจุภัณฑ์ครบวงจร