ปวดหัวข้างเดียว ปวดไมเกรน เพราะอะไร วิตามินอาหารเสริมจะช่วยได้ไหม

อาการปวดหัวมีหลากหลายแบบ โดยทั่วไปหากปวดหัวแล้วก็ก่อให้เกิดความรู้สึกไม่สบายตัว และอาจเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงอาการป่วยอื่นๆที่อาจจะตามมาได้ แต่อาการปวดหัวที่รุนแรงจนอาจส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวันได้ และหนึ่งในอาการปวดหัวที่ไม่ควรละเลยคือ ปวดหัวข้างเดียว หรือปวดไมเกรนนั่นเอง

อาการปวดหัว ปวดศีรษะแบบไหน คือไมเกรน

อาการปวดหัว ปวดศีรษะครึ่งซีก อาจเป็นอาการของโรคไมเกรน สามารถพบเจอได้ในทุกเพศ ทุกช่วงวัย โดยเฉพาะวัยทำงาน เนื่องด้วยปัจจัยที่กระตุ้นให้เกิดอาการปวดไมเกรน เช่น ความเครียดสูงจากการทำงาน แสงจากหน้าจอคอมพิวเตอร์ รวมไปถึงการพักผ่อนไม่เพียงพอ ล้วนก่อให้เกิดอาการปวดไมเกรนรุนแรงได้ทั้งสิ้น ถึงแม้ว่าเบื้องต้นจะสามารถรักษาและบรรเทาอาหารได้ด้วยการพักผ่อนอย่างเพียงพอโดยสม่ำเสมอ และการรับประทานยาแก้ปวด แต่หากปล่อยไว้เป็นระยะเวลานาน พักผ่อนน้อยเป็นส่วนมาก ก็อาจทำให้อาการปวดไมเกรนรุนแรงขึ้นจนยาแก้ปวดไม่สามารถบรรเทาได้

อาการปวดศีรษะที่มีโอกาสเป็นปวดไมเกรนได้แก่

• อาการปวดศีรษะข้างเดียว ปวดศีรษะครึ่งซีก ปวดรุนแรง ไม่หายปวดแม้รับประทานยาแก้ปวด หรือปวดเป็นระยะเวลานานติดต่อกันหลายวัน
• อาการปวดหัวข้างเดียวที่รุนแรงขึ้นเมื่อลุกขึ้นเดิน ได้ยินเสียงดัง อยู่ในสภาพแวดล้อมที่เปิดไฟจ้า มีแสงจ้า
• อาการปวดศีรษะข้างเดียวแบบปวดตุบเป็นจังหวะ

ปัจจัยที่ส่งผลให้เกิดอาการไมเกรน

ทุกคนสามารถเป็นไมเกรนได้ ทุกเพศ ทุกวัย หากมีความเครียดสูง และพักผ่อนน้อยเกินกว่าที่ควร เพราะสาเหตุที่ทำให้เกิดไมเกรนมาจาก ไฟฟ้าพื้นผิวสมองผิดปกติ เกิดการกระตุ้นที่ส่งผลต่อการไหลเวียนของเลือดได้ง่าย ส่งผลต่อการทำงานของระบบประสาทสมอง เกิดเป็นอาการปวดหัวไมเกรน 

โดยปัจจัยที่จะส่งผลให้เกิดอาการไมเกรน จะมีด้วยกันดังนี้

• การพักผ่อนไม่เพียงพอ นอนน้อยติดกันเป็นเวลาหลายวัน
• ใช้เวลาในการนอนหลับมากเกินไป ตื่นแล้วยังนอนต่อ
• อยู่ในสภาวะที่ก่อให้เกิดความเครียดสูงเป็นระยะเวลานาน
• ดื่มแอลกอฮอล์หนัก บริโภคคาเฟอีนในปริมาณมาก หรือสูบบุหรี่จัด
• ผลกระทบจากอาการฮอร์โมนไม่คงที่ โดยเฉพาะเพศหญิง
• การอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีปัจจัยกระตุ้น เช่น เสียงดัง กลิ่นแรง แสงสีจ้า อย่างเช่นผับบาร์ หรือโรงภาพยนตร์

ทำอย่างไรเมื่อมีอาการปวดไมเกรน

เมื่อเกิดอาการปวดหัวไมเกรนแล้วสามารถบรรเทาอาการ ลดปวดไมเกรนได้ด้วยวิธีการดังต่อไปนี้

• ดมน้ำมันหอมระเหยสำหรับแก้ปวดไมเกรน ปัจจุบันนอกจากยาดมแก้วิงเวียนศีรษะ ยังมีสูตรของยาดม น้ำมันหอมระเหย สำหรับช่วยเรื่องปวดไมเกรนโดยเฉพาะ เช่น กลิ่นลาเวนเดอร์ โรสแมรี่ เปปเปอร์มินท์ คาโมไมล์ และยูคาลิปตัส
• รับประทานยาแก้ปวดหัว โดยยาที่สามารถลดอาการปวดไมเกรนได้จะมีหลายกลุ่ม หากต้องการบริโภคยาเพื่อลดอาการไมเกรน ควรเข้าปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนเพื่อประเมินชนิดยาและโดสที่ควรใช้
• ปิดไฟ ลดแสงจ้า หากอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีแสงสว่างจัด ควรหรี่ไฟ ปิดไฟ หลับตาพักผ่อนเล็กน้อยเพื่อให้อาการปวดไมเกรนทุเลาลงได้
• ใช้ที่อุดหูสำหรับลดเสียงเมื่ออยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีเสียงดัง เพราะเสียงดังเป็นหนึ่งในปัจจัยกระตุ้นให้เกิดอาการปวดไมเกรนที่รุนแรงกว่าเดิมได้
• รับประทานแมกนีเซียมเสริมเพื่อลดอาการปวดไมเกรน

จากการวิจัย แมกนีเซียมมีส่วนในการช่วยลดอาการไมเกรนได้อย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากแมกนีเซียมช่วยให้ร่างกายสังเคราห์สารที่เรียกว่า ATP หรือ Adenosine Triphosphate ซึ่งเป็นแหล่งพลังงานของร่างกาย นอกจากจะช่วยเรื่องการทำงานของกล้ามเนื้อและเซลล์ในร่างกายแล้วก็ยังมีส่วนต่อกระบวนการส่งสัญญาณประสาทอีกด้วย

งานวิจัยพบว่า ผู้ที่มีอาการปวดหัวไมเกรนมักจะมีระดับแมกนีเซียมต่ำกว่าบุคคลทั่วไป และการทดลองพบว่าการบริโภคแมกนีเซียมช่วยลดอาการปวดไมเกรนได้โดยปราศจากผลข้างเคียง อีกทั้งการบริโภคแมกนีเซียมเสริมเป็นประจำทุกวันยังช่วยลดโอกาสการปวดไมเกรนในช่วงประจำเดือนได้อีกด้วย

6 วิธีดูแลร่างกาย ลดโอกาสการเกิดไมเกรน

แม้อาการปวดไมเกรนจะทรมานและส่งผลต่อร่างกายมากจนไม่สามารถทำงานได้ในผู้ป่วยบางราย  การดูแลรักษาร่างกายในระยะยาวเพื่อบรรเทาอาการปวดหัวและลดโอกาสการเกิดไมเกรนสามารถทำได้ เริ่มต้นจากการดูแลสุขภาพเบื้องต้นที่สุดในชีวิตประจำวัน

• นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ หลีกเลี่ยงการเล่นโทรศัพท์หรือจ้องแสงหน้าจออย่างน้อย 30 นาทีก่อนนอนเพื่อการนอนหลับพักผ่อนอย่างมีประสิทธิภาพ หลับลึก ให้ร่างกายได้พักผ่อนอย่างเต็มที่
• งดการดื่มแอลกอฮอล์ เครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน และงดบุหรี่ เพราะล้วนเป็นปัจจัยที่ทำให้อาการปวดไมเกรนหนักขึ้นได้
• หาวิธีบริหารจัดการความเครียดในระยะยาว เลี่ยงการเครียดสะสม
• หากมีอาการปวดไมเกรน ให้รับประทานยาแก้ปวดในปริมาณที่ฉลากแนะนำ ไม่รับประทานมากเกิน และไม่รับประทานติดต่อกันเป็นระยะเวลานานจนเกินไป ควรปรึกษาแพทย์
• หลีกเลี่ยงสภาพแวดล้อมที่อาจกระตุ้นให้เกิดอาการปวดไมเกรน หรือทำให้อาการปวดไมเกรนหนักกว่าเดิมได้ เช่น หลีกเลี่ยงสถานที่ที่มีเสียงดัง มีแสงสว่างจ้า
• บริโภคอาหารให้ครบ 5 หมู่ เพราะการขาดสารอาหารบางชนิดอย่างเช่นวิตามินหรือแมกนีเซียมอาจมีส่วนก่อให้เกิดอาการปวดไมเกรนได้ มีการวิจัยพบว่าการบริโภคแมกนีเซียมเสริมสามารถช่วยป้องกันอาการปวดไมเกรนในบางคนได้ จึงมีการบริโภคผลิตภัณฑ์เสริมธาตุแมกนีเซียมในรูปแบบยาเม็ดที่มีส่วนผสมของแร่ธาตุอื่นๆด้วย มักจะเป็น แคลเซียม สังกะสี เหล็ก วิตามินบี วิตามินซี วิตามินดี และวิตามินเอ

หากสงสัยหรือพบว่าตัวเองมีโอกาสปวดไมเกรนสูง หรือมีอาการปวดหัวครึ่งซีกติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน ควรเข้าพบแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญก่อนการรับประทานยาแก้ปวดหรืออาหารเสริม เพื่อวินิจฉัยว่าเป็นอาการของโรคไมเกรนจริงหรือไม่ และหาทางรักษาต่อไปในระยะยาว 

สำหรับใครที่ต้องการปรึกษาในเรื่องของการผลิตผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพื่อบำรุงร่างกายจากโรคไมเกรน อาการปวดไมเกรน สามารถปรึกษา Seven Stars Pharmaceutical รวมถึงอาหารเสริมเพื่อดูแลสุขภาพและคนที่คุณรักได้ที่ (internal link)

สรุป

โรคไมเกรนเป็นอาการปวดหัวปวดศีรษะที่ไม่ใช่อาการใหม่ หากมีอาการปวดศีรษะและสงสัยว่าเป็นอาการของโรคไมเกรน ควรเข้าพบแพทย์เพื่อรับคำปรึกษาและวินิจฉัยต่อไป หากเป็นไมเกรนแล้วก็หาทางดูแลบรรเทาอาการได้ไม่ยาก เพียงเริ่มต้นจากการดูแลสุขภาพในชีวิตประจำวัน และพักผ่อนให้เพียงพอ ก็จะช่วยให้อาการปวดศีรษะเบาลงและใช้ชีวิตประจำวันได้ง่ายขึ้นได้